ใกล้เข้ามาแล้วกับ JACKSON WANG MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 BANGKOK ทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวสุดยิ่งใหญ่ แจ็คสัน หวัง GOT7
สารบัญ
- 1 ระเบิดความมันส์กับ JACKSON WANG MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 BANGKOK
- 2 ทิ้งฝันโอลิมปิกสู่เส้นทางศิลปิน การตัดสินใจแห่งชีวิตของแจ็คสัน
- 3 จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของแจ็คสันเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2010
- 4 คำถามที่น่าสนใจที่สุดก็มาถึง นั่นก็คือเขาจะเลือกอะไร?
- 5 เดินทางสู่เกาหลีในฐานะเด็กฝึก JYP ในขณะที่ยังไม่เข้าใจภาษาเกาหลีเลย
ระเบิดความมันส์กับ JACKSON WANG MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 BANGKOK
และแล้วก็มาถึงกับเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวสุดยิ่งใหญ่ ครั้งแรกของหนุ่มสุดฮอตอย่าง แจ็คสัน หวัง GOT7 ที่มีชื่อว่า JacksonWang MagicMan WorldTour 2022 Bangkok ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 25-27 พฤศจิกายน นี้ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
โดยการมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ของแจ็คสัน ไม่เพียงแค่มาแสดงคอนเสิร์ตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีคิวงานตลอดเวลาที่อยู่ประเทศไทย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 กับงาน Woody LiveFM On Stage with Jackson Wang ยาวไปจนถึง 29 กันเลยทีเดียว ทำให้เจ้าตัวแพลนที่จะเดินทางมาประเทศไทยเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 21
แต่กว่าจะมาเป็นพี่แจ็คของเหล่าอากาเซ่ไทย ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ufabet888 เลยพามาย้อนดูประวัติการต่อสู้ฟันฝ่าจนมาเป็น แจ็คสัน หวัง ในทุกวันนี้กัน
ทิ้งฝันโอลิมปิกสู่เส้นทางศิลปิน การตัดสินใจแห่งชีวิตของแจ็คสัน
เคสของแจ็คสันเป็นกรณีศึกษาที่ดี เพราะถ้าเขาเดินตามทางที่ครอบครัววางไว้ให้ จะมีโอกาสดีมากที่จะกลายเป็น “โอลิมเปี้ยน” หรือผู้ที่ได้เข้าแข่งขันในโอลิมปิก อาจไปได้ไกลสุด ๆ ในสายกีฬา แต่เขากลับเลือกอีกเส้นทางหนึ่งคือวงการบันเทิง ซึ่งต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ และใช้ความพยายามอย่างมหาศาล
แจ็คสัน เกิดที่ฮ่องกงในปี 1994 ภายใต้ครอบครัวนักกีฬา คุณพ่อ หวัง รุยจิ เป็นนักฟันดาบทีมชาติจีนที่มีชื่อเสียงมาก เจ้าของเหรียญทองฟันดาบเซเบอร์ ในเอเชียนเกมส์ ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 1978 สิ่งที่คุณพ่อถ่ายทอดให้แจ็คสัน ไม่ใช่อะไรที่หวือหวา แต่เน้นไปที่เรื่องเบสิคพื้นฐาน การฝึกแบบเดิมซ้ำ ๆ อันน่าเบื่อตามรูทีน ซึ่งแจ็คสันก็ยอมทำตาม สิ่งนี้เองที่เป็นรากฐานที่ดีเมื่อเขาโตขึ้น และเริ่มลงทำการแข่งขันจริง ๆ
แจ็คสันลงแข่งขันฟันดาบประเภทเซเบอร์ บุคคลชาย และเป็นนักกีฬาที่มีพรสวรรค์สูงมาก ในปี 2010 เขาอายุเพียง 16 ปี แต่เขามี ranking อันดับที่ 1 ของนักกีฬาฟันดาบในฮ่องกง และทั้งทวีปเอเชีย
“ถ้าเป็นการแข่งประเภทเซเบอร์ ผมคืออันดับหนึ่งของเอเชีย” แจ็คสันอธิบาย
คำพูดของแจ็คสัน ไม่ใช่การโอ้อวดเกินจริง เดือนสิงหาคม 2010 ในการแข่งซัมเมอร์ ยูธ โอลิมปิกที่สิงคโปร์ ทั้งทวีปเอเชียได้โควต้าประเภทเซเบอร์แค่ 2 ที่นั่งเท่านั้น และเขาก็คือหนึ่งในนั้น แม้ครั้งนี้เขาจะไม่ได้เหรียญ เพราะไปตกรอบ 16 คนสุดท้าย แต่การที่ได้โควต้าก็ไม่ธรรมดาแล้ว ณ ช่วงเวลานั้น ถ้าเขาไม่หยุดฟันดาบ และพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ การไปถึงเหรียญเอเชียนเกมส์ก็คงไม่ใช่ปัญหาแน่นอน ขณะที่เรื่องการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม มันเป็นไปได้อยู่แล้ว
การเป็นนักกีฬาฟันดาบพรสวรรค์ดีกรียูธ โอลิมปิก ทำให้เขาได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ให้มาเป็นนักกีฬาฟันดาบของมหาวิทยาลัย คือเส้นทางสายกีฬาของแจ็คสัน โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างมาก สแตนฟอร์ด เป็นสถาบันชั้นนำของสหรัฐฯ ในสายกีฬาฟันดาบ นักกีฬาดัง ๆ อย่างเช่น อเล็กซานเดอร์ มาสเซียลาส เจ้าของ 3 เหรียญโอลิมปิก ก็ได้ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แบบเดียวกับที่ยื่นให้แจ็คสัน เช่นเดียวกัน
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของแจ็คสันเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2010
เมื่อค่ายเพลงจากเกาหลีใต้ ชื่อ JYP Entertainment ต้นสังกัดของวงดัง ๆ อย่างเช่น Wonder Girls และ2PM จัดงานโกลบอลออดิชั่นขึ้นใน 3 ประเทศ สิงคโปร์, ออสเตรเลีย และฮ่องกง จุดประสงค์เพื่อต้องการหาศิลปินหน้าใหม่นอกเกาหลี แจ็คสันถูกแมวมองของ JYP เห็นแววระหว่างเล่นบาสเกตบอลอยู่ที่โรงเรียน และเชิญให้เข้าประกวดออดิชั่นในวันที่ 18 ธันวา 2010 ที่ศูนย์แสดงสินค้า HITEC
จริง ๆ แจ็คสัน เคยถูกแมวมองไอดอลทาบทามมาแล้วหนึ่งครั้งในปี 2008 แต่เขาปฏิเสธ โดยแจ็คสันเล่าว่า “ตอนนั้นผมยังเด็กเกินไป และคุณพ่อก็พูดแบบสไตล์พ่อแม่คนจีน เขาบอกว่า ‘โอ๊ยมันเป็นพวกต้มตุ๋มหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่าไปเด็ดขาด เขาจะลักพาตัวแก ตัดอวัยวะภายในแล้วเอาไปขาย แถมสับเนื้อแกอย่างละเอียด ไม่ดีอย่าไป”
แจ็คสันก็เลยไม่ได้เข้าวงการบันเทิง และลงแข่งฟันดาบต่อไป แต่เมื่อได้รับการทาบทามอีกครั้ง คราวนี้เขาตัดสินใจว่าเขาจะไป ทำไมถึงไป? แจ็คสันเคยให้สัมภาษณ์กับดีเจเฟร์นันโด เวนตูร่าว่า “ความฝันของผมที่มีมาตลอดก็คือได้ร้องเพลง และได้เต้น” โอเค ฟันดาบเขาก็รัก แต่แพสชั่นในใจจริง ๆ คือการเป็นศิลปินต่างหาก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสอีกครั้ง เขาก็ต้องลองดู
จากการประกวดออดิชั่นที่ฮ่องกง ซึ่งมีคนเข้าร่วมมากกว่า 2,000 คน ปรากฏว่าแจ็คสันได้อันดับ 1 นั่นทำให้เขาได้รับข้อเสนอให้เข้าเป็นเด็กฝึกหัดของ JYP ทันที โอกาสในการเป็นไอดอลอยู่ตรงหน้าแล้ว
คำถามที่น่าสนใจที่สุดก็มาถึง นั่นก็คือเขาจะเลือกอะไร?
ทางแรกคือ รับทุนการศึกษาจากสแตนฟอร์ด เพื่อพัฒนาสกิลฟันดาบให้กลายเป็นระดับโลก และเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิก สานต่อความฝันของคุณพ่อ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดีมาตลอด และสามารถเก่งขึ้นกว่านี้ได้อยู่แล้ว
ทางเลือกที่สองคือ ก้าวไปสู่ความท้าทายใหม่ที่เกาหลีใต้ กับเรื่องดนตรีที่เขาชอบ แม้จะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่มันถือเป็นโอกาสทองแล้ว
และคำตอบจากแจ็คสันก็คือ เขาอยากเลือกในสิ่งที่อยากทำจริง ๆ มากกว่า ก็คือการเป็นศิลปิน แจ็คสันเปิดเผยเรื่องนี้ในภายหลังทางรายการทีวี youth inn ว่า “ในสายตาของพ่อแม่แล้ว หากรับทุนจากสแตนฟอร์ด ลูกชายจะได้ประโยชน์จากทั้งด้านการเรียน และทางด้านการฟันดาบ แต่ผมตัดสินใจบอกพ่อแม่ไปตรง ๆ ว่า จะไปเกาหลีเพื่อเป็นนักร้อง พอพวกท่านได้ยินก็พูดประมาณว่า นี่มันมุกตลกอะไร แกบ้าไปหรือเปล่า”
“พ่อแม่ถามผมว่า พักนี้แกเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า สภาพร่างกายมีปัญหาอะไรไหม พวกเขาคิดว่าผมล้อเล่น”
“แต่ตอนนั้นผมก็คิดว่า ผมจะต้องฟันดาบไปตลอดชีวิตจริง ๆ หรือ ทำไมผมถึงไม่สามารถไปลองอะไรใหม่ ๆ ที่อยากทำได้ล่ะ?”
“ตอนที่ผมอายุ 80 ไม่อยากบอกหลาน ๆ ว่าตัวเองยังไม่ได้ทำทุกสิ่งที่อย่างทำอย่างเต็มที่ ผมเลยตัดสินใจแบบนั้น เพราะไม่อยากเสียใจทีหลังกับอะไรเลย”
นั่นทำให้เขาตัดสินใจยุติการฟันดาบ แล้วไปเริ่มต้นด้วยการเป็นเด็กฝึกที่ JYP อย่างไรก็ตาม และคุณพ่อที่ได้ขออย่างสุดท้ายว่า ถ้าอยากไปเป็นศิลปิน K-Pop ก็ได้ แต่ต้องคว้าแชมป์เยาวชนเอเชียให้ดูหน่อยได้ไหม
เดือนมีนาคม 2011 การแข่งขัน Asian Junior and Cadet Fencing Championships หรือศึกเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ซึ่งได้จัดขึ้นที่ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ที่ประเทศไทย
แจ็คสันเดินทางมาแข่งฟันดาบเป็นรายการสุดท้าย เพื่อทำในสิ่งที่สัญญาไว้กับพ่อแม่ นั่นคือ “การได้เป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย” และสามารถฝ่าฟันถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ และนัดนั้นเขาไปเจอกับ ฟาซิล ชิงกี้ จากคาซัคสถาน
ผลการแข่งขันคือ แจ็คสันชนะด้วยคะแนนตัดสิน 15:14 คว้าเหรียญทองมาได้สำเร็จ ครองบัลลังก์นักฟันดาบเยาวชนอันดับหนึ่งของเอเชียอย่างเป็นทางการ เขาทำตามที่พ่อขอได้จริง ๆ และจุดนั้นเอง ก็ถึงเวลาสมควรที่แจ็คสันจะเปลี่ยนเส้นทาง ไปสู่สิ่งที่เขามีแพสชั่นจริง ๆ นั่นก็คือการเป็นไอดอล
เดินทางสู่เกาหลีในฐานะเด็กฝึก JYP ในขณะที่ยังไม่เข้าใจภาษาเกาหลีเลย
เรื่องราวต่อจากนั้น แจ็คสันเดินทางไปเกาหลีใต้ในเดือนกรกฎา 2011 ในฐานะเด็กฝึกหัด และเส้นทางสายไอดอลของเขาก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะก้าวไปสู่ศิลปินระดับนานาชาติได้สมความตั้งใจ แต่จนถึงวันนี้ยังมีการพูดถึงกันบ่อย ๆ ว่าตัวแจ็คสันจะเคยรู้สึกเสียดายบ้างไหม เพราะถ้าไม่เลิกฟันดาบ แล้วไปฝึกฝนต่อที่สแตนฟอร์ด เขาอาจไปถึงเหรียญโอลิมปิกได้อย่างไม่ยากเลย เพราะเขามีพรสวรรค์อย่างแท้จริง ถึงขนาดเป็นแชมป์เยาวชนเอเชียมาแล้ว
ในปี 2017 รายการเกมโชว์ของจีนชื่อ beat the champions มีการนำเอานักกีฬาฟันดาบเหรียญทองโอลิมปิกของจีน มาแข่งขันกับไอดอล และได้เชิญแจ็คสันมาร่วมรายการด้วย ในรายการพิธีกรได้ถามแจ็คสันว่า “การได้มาฟันดาบกับนักกีฬาโอลิมปิกทั้งสองคน พอจะชดเชยความเสียใจที่คุณไม่ได้ไปโอลิมปิกด้วยตัวเองได้ไหม”
แจ็คสันตอบว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้มาฟันดาบกับพี่ชาย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากจริง ๆ แต่สำหรับผม ผมไม่เคยเสียใจที่เลือกเส้นทางนี้”
สิ่งที่สะท้อนให้เห็นจากการตัดสินใจของแจ็คสันก็คือ คุณจะเลือกทางไหนก็ได้ แต่เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องไปให้มันสุดทางไปเลย อย่าทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ เด็ดขาด และอย่าเสียใจในทางเลือกของตัวเอง
ส่วนในเคสนี้ก็พอจะเห็นว่า เมื่อประตูบานหนึ่งปิดไป แต่ก็เป็นการเปิดประตูอีกบานหนึ่งขึ้นมา จริงอยู่ที่ว่าโลกนี้อาจเสียนักกีฬาฟันดาบระดับโอลิมปิกไปหนึ่งคน แต่เมื่อแลกมากับศิลปินที่สร้างแรงบันดาลใจเป็นผู้ที่สร้างความสุขให้ผู้คนนับล้าน ก็คงพอจะบอกได้ว่า เป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าแล้วจริง ๆ
JACKSON WANG MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 BANGKOK เรียกได้ว่า เพื่อนมาสชิกหลายท่านอาจได้กระโดดไปชมอย่างไม่น่าพลาด แต่ถ้าใครพลาด ก็มานั่งเล่นเดิมพันกับเราไปก่อนได้ รับความความสนุก ตื่นเต้นอีกรูปแบบที่ท่านจะติดใจ เดิมพันกันเกมพนันคาสิโนเว็บตรงไม่ผ่านเอเยนต์ ที่ทดลองเล่นได้ฟรีมีที่นี่แล้ว สนใจเดิมพัน สมัครได้เลยที่ : คาสิโนออนไลน์